5 สไตล์บ้านที่นิยมในไทย
5 สไตล์บ้านที่นิยมในไทย สวัสดีครับวันนี้มีสไตล์บ้านมาแนะนำเพื่อเป็นแนวทางในการหาแบบบ้านในสไตล์ที่ใช่ในแบบของตัวเอง และเพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนที่กำลังสร้างบ้านอีกด้วย จะมีสไตล์ไหนบ้างไปดูพร้อม ๆ กันเลยครับอ่านเพิ่มเติม
1.บ้านสไตล์นีโอคลาสสิค
เริ่มต้นด้วยบ้านสไตล์นีโอคลาสสิค เป็นการลดรายละเอียดของศิลปะคลาสสิคให้เรียบง่ายร่วมสมัยขึ้น มักจะเล่นลวดลายต่าง ๆ ที่ทำด้วยการสลัก โดยมีที่มาจากสถาปัตยกรรมที่ผลิตโดยการเคลื่อนไหวแบบนีโอคลาสสิคที่เริ่มต้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 18 ในอิตาลี และฝรั่งเศส ซึ่งได้กลายเป็นอีกหนึ่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและเป็นสัญลักษณ์ในโลกตะวันตก
Neo หมายถึง New หรือใหม่ ส่วน Classic หมายถึง สไตล์คลาสสิค ดังนั้นสไตล์ “Neoclassic” ( นีโอคลาสสิค ) จึงหมายถึง “ศิลปะแบบคลาสสิคสมัยใหม่” ได้รับอิทธิพลเนื่องจากการเผด็จการทางการเมือง การต่อต้านการแบ่งชนชั้นในประเทศฝรั่งเศส ทำให้ชาวยุโรปตะวันตกหันมาสนใจในศิลปะแบบคลาสสิคอีกครั้ง ประกอบกับด้านโบราณคดีในช่วงนั้นมีการขุดพบเมืองกรีกโบราณ คือ เมืองเฮอคูลาเนียน ( Herculaneum ) และเมืองปอมเปอี ( Pompei ) ทำให้พบศิลปะวัตถุที่มีค่ามากมาย ซึ่งการพบว่าสมัยโบราณของโรมันมีความซับซ้อนทางเทคโนโลยีอันน่าทึ่งมากกว่าที่คิด แต่ทว่าก็ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่งดงามเกินกว่าที่คนในยุคนั้นจะจินตนาการได้
ดังนั้นสไตล์นีโอคลาสสิคจึงมีรากฐานและได้รับแรงบันดาลใจมาจากการตกแต่งสไตล์กรีกโบราณและโรมัน ( Ancient Greek and Roman Art ) แต่ก็ได้พัฒนารูปแบบสไตล์โดยได้รับอิทธิพลมาจาก ศิลปะสไตล์บาโรก ( Baroque Art ) และศิลปะสไตล์โรโคโค ( Rococo Art ) ซึ่งเป็นที่นิยมในขณะนั้น ดังนั้นลักษณะของศิลปะแบบนีโอคลาสสิกจึงมีแนวคิด และการสร้างงานลอกเลียนแบบมาจากศิลปะยุคโบราณแทบทุกอย่าง งานสไตล์นีโอคลาสสิกพบมากในแถบยุโรปและได้รับความนิยมมากในประเทศอิตาลีและฝรั่งเศส ช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 18 จนถึงปลายคริสต์ศตวรรษ 19
สำหรับลักษณะเด่นของสไตล์นีโอคลาสสิคที่จะเห็นได้อย่างเด่นชัด ก็คือ การนำเอาเสาที่ตกแต่งหัวเสาด้วยสไตล์แบบคลาสสิคมาใช้ในงานออกแบบ โดยนำตัวอย่างมาจากอาคารกรีกและโรมันที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ซึ่งประเภทหลักๆ ที่เรามักจะพบเห็นกันได้แก่ เสาสไตล์ดอริค, เสาสไตล์ไอออนิค และ เสาสไตล์โครินเธี่ยน
เสาสไตล์ดอริค (Doric) จะเป็นเสาไสลต์คลาสสิคยุคแรกๆ ที่ให้ความรู้สึกหนักแน่นและเรียบง่าย ตกแต่งเฉพาะหัวเสา โดยจะมี Abacus ซึ่งเป็นฐานเหลี่ยมรับคานหลังคา จากนั้นตามด้วย Echinus ซึ่งเป็นฐานกลมกว้าง และค่อยๆ สอบลงมาถึงบริเวณหัวเสา ทำให้อาคารสถาปัตยกรรมดูมีมิติและสูงสง่าโอ่อ่ามากขึ้นเมื่อมองจากด้านล่าง
เสาสไตล์ไอออนิค (Ionic) จะเป็นเสาที่มีการตกแต่งมากขึ้น และได้รับการขนานนามว่ามีความอ่อนช้อย และความเป็นผู้หญิง เนื่องจากมีการตกแต่งหัวเสาด้วย Volutes หรือทรงม้วนกลมๆ สองวงที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ เช่น ก้นหอย หรือ เขาของสัตว์ต่างๆ นอกจากนี้เสาสไตล์ไอออนิคยังมีการตกแต่งฐานเสาด้วย Echinus และ Abacus อีกด้วย
จุดเด่นและข้อดีของบ้านสไตล์นีโอคลาสสิค
- มีความหรูหรา มีรายละเอียดของลวดลายที่เด่นชัด
- มีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยความซับซ้อน ความกลมกลืน ความรักในโทนสีสว่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายละเอียดสีขาวและโรแมนติก
2.บ้านสไตล์โมเดิร์น
บ้านสไตล์โมเดิร์น ถือว่าเป็นรูปแบบของสิ่งก่อสร้างที่ได้รับอิทธิพลมาจากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมในช่วงศตวรรษที่ 18 ซึ่งเป็นช่วงที่คนหันมาให้ความคำนึงถึง การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดการใช้วัสดุรวมทั้งแรงงานที่ไม่จำเป็นในการก่อสร้าง ดังนั้นจึงเกิดกระบวนการในการลดทอนส่วนประกอบของอาคารที่ฟุ่มเฟือยและหันมาใช้รูปทรงเรขาคณิตขั้นพื้นฐานที่มีความเรียบง่าย ไม่มีการตกแต่งหรือปกปิดพื้นผิว โชว์ลักษณะพื้นผิวตามธรรมชาติของวัสดุที่นำมาใช้ และเนื่องจากคำว่า Modern ในภาษาอังกฤษ แปลว่า ใหม่หรือทันสมัย จึงถูกนำมาใช้เรียก การออกแบบในรูปแบบใหม่นี้ สำหรับยุคนั้น
บ้านทรงโมเดิร์นมักเน้นที่ประโยชน์ใช้สอยในบ้านเป็นหลัก การออกแบบตามรูปทรงเลขาคณิตจึงเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก เพราะช่วยให้บ้านเป็นสัดส่วนใช้งานได้อย่างเต็มที่ รวมถึงมีจุดเด่นที่หลังคาแบบพื้นเรียบ หรือหลังคาเพิงแหงนที่ต่างจากหลังคาหน้าจั่วทั่วไป ทำให้ภาพรวมของบ้านดูไม่มาก หรือน้อยจนเกินไป
จุดเด่นและข้อดีของบ้านสไตล์โมเดิร์น
- เน้นโปร่งโล่ง เพื่อพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน
- ดีไซน์ที่เรียบ ทันสมัย ดูแลรักษาง่าย
- เป็นโครงสร้างที่ไม่ซับซ้อนมาก
3.บ้านสไตล์นอร์ดิก
บ้านสไตล์นอร์ดิก ถือว่าเป็นสไตล์บ้านที่เน้นความเรียบง่าย โดยสอดคล้องกับความสบายและความผ่อนคลายด้วยการดึงเอาประโยชน์จากธรรมชาติในเรื่องของสี แสง และอาการมาปรับใช้ได้อย่างลงตัว โดยมีที่มาจากพื้นที่แถบคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย มีประเทศที่เป็นกลุ่มนอร์ดิก ได้แก่ สวีเดน, ฟินแลนด์, ไอซ์แลนด์, นอร์เวย์ เดนมาร์ก และเกาะกรีนแลนด์ แม้จะอยู่ทางโซนยุโรปเหนือ แต่สภาพภูมิอากาศไม่รุนแรงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ที่มีละติจูดเดียวกัน โดยฤดูหนาวจะค่อนข้างอบอุ่น เพราะได้รับกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม ถ้าเป็นช่วงหนาวจัดจะมีหิมะตก การออกแบบบ้านสไตล์นอร์ดิกจึงมักมีด้านที่เป็นกระจกช่วยเพิ่มแสงสว่างและความอบอุ่น
บ้านสไตล์นอร์ดิก (Nordic House Style)เป็นรูปแบบบ้านที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมของยุโรปตอนเหนือ ถือเป็นอีกหนึ่งสไตล์บ้านที่กำลังเป็นที่พูดถึงมาก อยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะใครที่ หลงใหล ตกหลุมรัก บ้านดีไซน์สวย เรียบง่าย และชวนผ่อนคลาย รวมถึงการออกแบบที่เหมาะสมกับผู้อยู่อาศัย Nordic House Style คือสไตล์บ้านในฝันที่หลายๆคนหลงใหลและกำลังมองหาอยู่แน่นอนแบบบ้าน
นอร์ดิกเป็นสไตล์บ้านแถบคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย โดยประเทศที่อยู่ในกลุ่มนอร์ดิก ได้แก่ สวีเดน, ฟินแลนด์, ไอซ์แลนด์, นอร์เวย์ เดนมาร์ก และเกาะกรีนแลนด์ บ้านแนวนอร์ดิกจะมีเอกลักษณ์ในเรื่องของความอบอุ่น เรียบง่าย เน้นความโปร่งโล่ง และมีจุดเด่นก็คือรูปทรงจั่วคล้ายกับโรงนาในยุโรป เน้นความเป็นธรรมชาติของสีและวัสดุอุปกรณ์ รวมไปถึงประโยชน์ใช้สอยมากกว่าความสวยงาม การออกแบบบ้านสไตล์นอร์ดิกจึงมักมีด้านที่เป็นกระจกช่วยเพิ่มแสงสว่างและความอบอุ่น ปัจจุบันบ้านสไตล์นอร์ดิกได้มีการประยุกต์และผสมผสาน กับ ทั้งสไตล์มินิมอล สไตล์โมเดิร์น สไตล์ลอฟต์ปูนเปลือย หรือจะไปแนวสไตล์หรูหราก็เป็นที่นิยมอย่างมาก
จุดเด่นและข้อดีของบ้านสไตล์นอร์ดิก
- เรียบง่าย สะดวกทุกการใช้งาน
- มีพื้นที่ใต้หลังคาทำให้โล่งโปร่ง
- หลังคาทรงสามเหลี่ยม
4.บ้านสไตล์ตะวันออก
บ้านสไตล์ตะวันออก ถือว่าเป็นสไตล์บ้านที่นำเอาความโดดเด่นทางวัฒนธรรมมาใช้ในการก่อสร้างระหว่างจีน ญี่ปุ่น และแถบเอเชียมาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบ นั่นจึงเป็นทั้งเสน่ห์และกลิ่นอายของความเป็นตะวันตกได้อย่างลงตัว และหากใครที่ชอบกลิ่นอายตะวันออกที่ผสมผสานเสน่ห์ของความเป็นเอเชียรับรองว่าสไตล์นี้ตอบโจทย์คุณอย่างแน่นอน และจะเป็นอีกสไตล์หนึ่งที่จะทำให้คุณหลงใหล ทุกสัมผัสอันรื่นรมย์ได้ไม่มากก็น้อย
จุดเด่นและข้อดีของบ้านสไตล์ตะวันออก
- จุดเด่นของการตกแต่งสไตล์นี้อยู่ที่ความสามารถในการถ่ายทอดสถาปัตยกรรมคลาสสิคให้ออกมาเป็นบรรยากาศที่ร่วมสมัย
- มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตรงหลังคา
- เน้นการออกแบบให้ประตู หน้าต่างมีขนาด ใหญ่ เน้นเพดานสูง โอ่โถง เพื่อให้สามารถระบายอากาศ และเปิดรับ ลมธรรมชาติได้ในทุกทิศทาง รวมถึงส่วนหลังคาชายคาที่ยื่นยาว และ ระเบียงกว้าง
5.บ้านสไตล์ร่วมสมัย
บ้านสไตล์ร่วมสมัย ถือว่าเป็นการออกแบบบ้านที่นำเอารายละเอียดของยุคสมัยหนึ่งในอดีตมาหลอมรวมกับความทันสมัยของยุคปัจจุบัน โดยจะเป็นการลดทอนให้เหลือเพียงแต่สิ่งที่จำเป็น ส่งผลให้ตัวบ้านมีพื้นที่มากขึ้นและถูกใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ในส่วนของการออกแบบจะมีการตั้งใจในเนื้อหารวมทั้งฟังก์ชั่นใช้งานเหมือนกับบ้านสไตล์โมเดิร์นที่มีความล้ำยุค แม้กระนั้นบ้านสไตล์ Contemporary จะย้ำการตกแต่งที่เพิ่มบรรยากาศที่ความรู้สึกสำหรับการพักอาศัยรวมทั้งดำเนินชีวิตเยอะขึ้น
บ้านสไตล์ร่วมสมัยเป็นแบบบ้าน ที่ไม่ได้ถูกนิยาม หรือจำกัดความตายตัว ว่าจะต้องเป็นบ้าน ที่ตกแต่งด้วยสไตล์อะไร กับรูปแบบใด แต่ว่าเป็นการตกแต่งบ้านสไตล์หนึ่ง ที่มีการประสมประสานกันระหว่าง การตกแต่งบ้านในอดีตกาล ที่ผ่านมา รวมทั้งการตกแต่งบ้าน ของช่วงปัจจุบัน ที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น ก็เลยเกิดเป็นรูปแบบหนึ่ง
ของการแต่งบ้าน ที่ผสานทั้งเสน่ห์แห่งความเก่า และใหม่เข้ากัน ไว้อย่างลงตัว ซึ่งการตกแต่งบ้าน ในสไตล์นี้จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้การแต่งบ้าน ในแบบเดิม มีเอกลักษณ์ ที่เด่นมากยิ่งขึ้น แต่ว่าจะเน้น การตกแต่ง ที่เรียบง่ายด้วยการ ประสมประสานวัสดุ ที่มีความเป็นธรรมชาติ เพื่อสร้างบรรยากาศ ของการอยู่อาศัย ภายในบ้าน ให้รู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย และก็มีความเป็นธรรมชาติ มากยิ่งกว่าเดิม
ความสวยงามคลาสสิก
การตกแต่งบ้านในสไตล์ Contemporary เป็นการตกแต่งบ้านที่มีความร่วมสมัยระหว่างกลิ่นอายในอดีตและปัจจุบัน มีการใส่ใจในรายละเอียดรวมทั้งฟังก์ชั่นใช้งานเช่นเดียวกับบ้านสไตล์โมเดิร์นที่มีความทันสมัย แม้กระนั้นบ้านสไตล์ Contemporary จะเน้นการตกแต่งที่เพิ่มบรรยากาศแห่งความรู้สึกในการอยู่อาศัยแล้วก็ใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น แบบบ้าน
และค่อนข้างมีรายละเอียดเล็กน้อยที่มากกว่าการแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น อาทิเช่น การออกแบบหลังคาของบ้านร่วมสมัยจะนิยมเลือกใช้หลังคาทรงจั่วหรือปั้นหยามากกว่าหลังคาแบบเรียบแบนตามสไตล์โมเดิร์น โดยจะใช้โทนสีหลังคาที่มีความเข้มขรึมหรือโทนอ่อนที่ไม่ฉูดฉาด ที่สามารถเสริมภาพลักษณ์อันสง่างาม ให้บ้านสไตล์ร่วมสมัยได้อย่างดีเยี่ยม
เสน่ห์ธรรมชาติ
บ้านสไตล์ร่วมสมัยจะมีการนำวัสดุ ที่มีความเป็นธรรมชาติอย่าง “ไม้” มาใช้เพื่อการตกแต่งบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการประยุกต์ใช้ เพื่อตกแต่งเป็นองค์ประกอบภายในบ้านตามอาคาร หรือบางทีอาจเป็นลักษณะ ของเฟอร์นิเจอร์ จากไม้ธรรมชาติ ที่นำมาใช้ตกแต่ง ภายในบ้าน ก็ได้เช่นกัน ซึ่งวัสดุประเภทไม้ ไม่ว่าจะเป็นไม้จริงหรือไม้เทียม ก็เป็นเอกลักษณ์ อย่างหนึ่งที่เหมาะสม
กับการตกแต่งบ้านสไตล์ร่วมยุค ในแต่ละยุค เนื่องจากบรรยากาศ ของการตกแต่งบ้านสไตล์นี้จะเน้นความอบอุ่น แล้วก็ชวนผ่อนคลาย มากกว่าการแต่งบ้าน สไตล์โมเดิร์นในปัจจุบัน ที่เน้นความล้ำยุค จากการใช้วัสดุสมัยใหม่ มากกว่า ก็เลยทำให้ การแต่งบ้านในสไตล์ Contemporary เป็นรูปแบบ ที่ประสมประสานเสน่ห์ แห่งธรรมชาติ ไว้ในการอยู่อาศัย อย่างลงตัว อีกทั้งยังนิยมสร้างบรรยากาศโดยรอบบ้าน และภายในบ้าน ให้มีความเป็นธรรมชาติ ด้วยการจัดสวนปลูกต้นไม้ เพิ่มความร่มรื่น มากยิ่งขึ้น
จุดเด่นและข้อดีของบ้านสไตล์ร่วมสมัย
- มีการออกแบบและตกแต่งที่เรียบง่าย
- มีลูกเล่นของตัวสถาปัตยกรรมที่แตกต่างจากสไตล์โมเดิร์น
- มีการใส่ประสานแนวความคิดทางความคิดเริ่มแรกเข้าเอาไว้ในการออกแบบตกแต่งอย่างพอดี