ออฟฟิศโมเดิร์น ทรัพยากรมนุษย์เป็นหนึ่งปัจจัย สำคัญที่มีผลต่อความ ล้มเหลวหรือความสำเร็จขององค์กร รวมถึงสภาพแวดล้อม ในที่ทำงานก็ยังส่งผลต่อพฤติกรรม แรงจูงใจ ผลผลิต และประสิทธิภาพในการทำงานโดยตรง ลองจินตนาการดูว่าหากคุณต้องนั่ง ทำงานในสำนักงานหรือออฟฟิศอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ การนั่งที่เดิม ๆ บนโต๊ะตัวเดิม ๆ ย่อมทำให้คุณรู้สึกเบื่อหน่ายได้ง่าย ๆ ใช่ไหม มีงานวิจัยหลายชิ้นที่บอกตรงกันว่า สภาพแวดล้อมภายในที่ทำงาน
มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน อารมณ์ สมาธิ และความสุขของพนักงาน ดังนั้น ออฟฟิศที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีย่อมส่งเสริมให้พนักงานมีแรงจูงใจในการทำงาน และทำให้การทำงานเป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การออกแบบออฟฟิศ ตกแต่งภายในออฟฟิศให้หลุดออกจากกรอบเดิม ๆ ที่มีเพียงแค่โต๊ะทำงาน เก้าอี้ หน้าจอคอมพิวเตอร์ให้ดูสดใหม่ น่าทำงาน
จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมดี ๆ ให้บุคลากรได้มีอิสระในการใช้ความคิด และการใช้ชีวิตในที่ทำงานได้มากขึ้น และทำให้งานออก มาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ออฟฟิศโมเดิร์น
เปลี่ยนออฟฟิศเดิม ๆ ให้พื้นที่แห่งการสร้างสรรค์ได้ง่าย ๆ
เลือกเฟอร์นิเจอร์แสนสบาย
ออฟฟิศซินโดรมเป็นโรค ยอดฮิตของคนทำงานในปัจจุบัน นอกจากจะก่อให้เกิดความ เจ็บปวดทางร่างกายแล้ว ยังสามารถส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานได้อีกด้วย ดังนั้น ควรให้ความสำคัญกับการใช้เฟอร์นิเจอร์ ที่สามารถรองรับสรีระร่างกายได้อย่างเหมาะสม เช่น เก้าอี้สำนักงานที่นั่ง ทำงานได้ต่อเนื่องสบาย ๆ โต๊ะทำงานแบบยืนเพื่อให้พนักงาน สามารถปรับเปลี่ยนอิริยาบทได้ในยามเมื่อยล้า หรือมุมทำงานแบบฟรีสไตล์ สำหรับให้พนักงานนั่งประชุม ระดมสมอง แลกเปลี่ยนความคิดระหว่างกัน เป็นต้น
เล่นกับสีสัน
สีที่แตกต่างกันจะส่งผล ต่ออารมณ์ความรู้สึกต่างกัน การตกแต่งภายในออฟฟิศ ด้วยสีขาวอาจดูสะอาดตา แต่ก็ให้ความรู้สึกน่าเบื่อได้ง่าย ๆ การเติมสีสันภายในออฟฟิศ จึงช่วยสร้างบรรยากาศที่ช่วย กระตุ้นการทำงานและความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีสีสันสะดุดตา หรือออกแบบออฟฟิศด้วยการทาสีผนังสวย ๆ ก็จะช่วยให้ออฟฟิศของคุณมีชีวิตชีวาขึ้น ได้มากทีเดียว ความสดใสของสียังส่งผลต่อสมอง และกระตุ้นให้พนักงานรู้สึกตื่นตัว กระฉับกระเฉง หรืออาจเลือกใช้สีของ แบรนด์ตกแต่งภายใน การออกแบบออฟฟิศ เป็นหลัก เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ก็ได้เช่นกัน
เพิ่มมุมผ่อนคลาย
หมดยุคออฟฟิศที่มีแต่โต๊ะทำงาน และจอคอมพิวเตอร์แล้ว เนื่องจากพนักงานต้องใช้เวลาอย่างน้อย 8 ชั่วโมงอยู่ในออฟฟิศ ดังนั้น ลองเปลี่ยนออฟฟิศ ที่มีแต่ความตึงเครียด ให้มีมุมพักผ่อนแสนสบายราวกับอยู่ใน บ้านเพื่อให้สามารถสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นมุมโซฟา มุมกาแฟ หรืออาจเพิ่มโซนสำหรับวางโต๊ะปิงปอง โต๊ะสนุ๊ก หรือเครื่องเล่นเกมก็น่าสนใจไม่แพ้กัน นอกจากจจะเป็นการพักสมองแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสุข ลดความตึงเครียดอันเกิด จากภาระหน้าที่งานได้เป็นอย่างดี
เพิ่มพื้นที่สีเขียว
ต้นไม้จะช่วยเพิ่มความสดชื่น มีชีวิตชีวาให้กับออฟฟิศ ทั้งยังเป็นจุดพักสายตาเพื่อผ่อนคลายสมองยาม เหนื่อยล้าจากการทำงาน หากมีพื้นที่ไม่มากนัก อาจแบ่งพื้นที่บางส่วนตกแต่งภายใน ออฟฟิศเพื่อใช้จัดสวน กระถางติดผนังหรือสวนแนวตั้ง ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ
อาทิ การติดกระถางแขวนบนผนัง การใช้บล็อกปลูกต้นไม้สำเร็จรูป สวนแนวตั้งแบบผนังผ้า ซึ่งล้วนแล้วแต่สามารถเพิ่มบรรยากาศความเป็นธรรมชาติได้โดยไม่รบกวนพื้นที่ แถมยังดูทันสมัย และยังช่วยช่วยเรื่องคุณภาพ ของอากาศภายในอีกด้วย บ้านเดี่ยว
แบบออฟฟิศโมเดิร์น ดีไซน์โฉบเฉี่ยว แต่เน้นวัสดุติดดิน
ออฟฟิศ หรือสถานที่ทำงานที่เราคุ้นเคย หน้าตาก็คงจะเป็นอาคารหรือตึกที่ปิดทึบภายนอก ภายในแบ่งเป็นห้อง ๆ แยกเป็นแผนก ๆ ไป ทั้งนี้คนที่ทำงานต่างก็รู้ดีว่าเราแทบจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันในออฟฟิศมากที่สุด การออกแบบที่ทำงานจึงมีความสำคัญต่อบรรยากาศการทำงานอย่างมาก อย่างที่เห็นว่าออฟฟิศใหม่ ๆ นอกจากจะพยายามดีไซน์ให้แปลกตาน่าสนใจแล้ว
ภายในยังตกแต่งสวยงาม และไม่ลืมที่จะแทรกธรรมชาติพร้อมจุดพักผ่อนให้พนักงานได้แวะมาผ่อนคลายความเครียดด้วย ซึ่งโปรเจ็ค EARTHY OFFICE ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะล้างภาพบรรทัดฐานของสำนักงานไซต์ทั่วไป ให้คนมาทำงานได้อย่างสนุกและสดชื่น
ธีมพื้นฐานของสำนักงานคือ การออกแบบอาคารรูปลักษณ์โมเดิร์น แต่ใช้องค์ประกอบทางธรรมชาติอย่างอบอุ่น ภายนอกและภายในผสมผสานพลังงานเชิงบวก สร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ ความน่าสนใจอยู่ที่หลังคาแบนที่ยื่นออกมาขนาดใหญ่แล้วเจาะช่องว่างเปิดออกสู่ท้องฟ้าแบบฟรีฟอร์ม
รูปทรงที่ตัดออกแบบไม่สมมาตรในคอนกรีตด้านบนช่วยเสริมซึ่งกันและกัน ช่องว่างนี้เปิดออกเหนือสวนที่อยู่ตรงกลางของสำนักงานรูปตัว L ผนังอาคารส่วนใหญ่เป็นกระจกใสทำให้มองเห็นสำนักงานได้อย่างต่อเนื่องทั้งจากภายนอกและภายใน
การตกแต่งภายในเน้นแนวทางที่เรียบง่ายในการออกแบบ ตามที่เจ้าของโปรเจ็คสรุปคือใช้องค์ประกอบธรรมชาติมาตกแต่ง อาทิ คอนกรีต อิฐ ไม้ และแผ่นหินโคตา (วัสดุพื้นถิ่นที่กลายมาเป็นของที่ทันสมัยในปัจจุบัน) ที่ใช้ปูพื้นบนทางเดินเชื่อมต่อภายในของสำนักงาน
โดยเลือกแผ่นสี่เหลี่ยมขนาดเล็กที่มีเฉดสีเขียวต่าง ๆ กันเพื่อให้แสงส่องผ่านแล้วจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเฉดสีแบบสุ่มที่สวยงามในแบบของตัวเอง เพิ่มความรู้สึกเป็นจังหวะในออฟฟิศได้อย่างดี
เปิดประตูเข้ามาจะพบกับโถงทางเดิน และคอร์ทยาร์ดเปิดออกสู่ท้องฟ้า จัดเป็นสวนเล็ก ๆ อยู่ตรงหน้า มีสนามหญ้าเขียวชอุ่มตรงกลาง ปลูกต้นลีลาวดีช่วยเพิ่มความสวยงาม รอให้ต้นไม้ขยายกิ่งก้านผลิดอกออกใบ ก็จะยิ่งสวยมากขึ้นไปอีก สวนที่ล้อมด้วยกระจกเหมือนตู้โชว์นี้ทำหน้าที่เป็นกั้น ส่วนระหว่างพื้นที่สาธารณะและกึ่งส่วนตัว
ความใสของกระจกจะนำแสงธรรมชาติ เข้ามาภายในไปพร้อมกัน การเพิ่มฉากหลังลายอิฐแพทเทิร์นต่างๆ เป็นองค์ประกอบที่สร้างมิติของแสงเงาบนผนังและพื้น ส่วนที่ติดกับคอร์ทยาร์ดจะเป็นพื้นที่รับแขก และห้องทำงาน ทำให้ทั้งผู้มาเยือนและคนทำงานได้รับมุมมองของธรรมชาติที่สร้าง ความผ่อนคลายภายในได้พร้อม ๆ กัน
โซนใช้งานแบบไม่เป็นทาง การหรือพื้นที่นั่งรอสำหรับลูกค้า ผนังก่อด้วยอิฐเปลือยในแพทเทิร์น แนวนอนสลับกับแนวตั้ง เพื่อลบความรู้สึกซ้ำซากจำเจของผนังก่ออิฐทั่วไป สำหรับพื้นห้องตรงกลางเหมือนพรมลายกราฟฟิก ออกแบบสั่งทำจากแผ่นหินโคตาขนาด 600 มม. x 600 มม. ตัดด้วย CNC ให้เกิดลวดลายนูนต่ำสวยๆ ไม่เหมือนใคร
ห้องประชุมใช้แนวคิดมินิมอลที่มา พร้อมเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวขนาดกะทัดรัด เป็นโต๊ะกลมทำจากไม้ 4 ที่นั่ง ผนังคอนกรีตกรุกระจก มีจอทีวีเผื่อใช้นำเสนองาน ติดภาพวาดสีสดใสเพื่อทำลายความตึงเครียดขณะกำลังพูดคุย
ห้องทำงาน หลักใช้แนวคิดที่คล้ายกัน คือฉากหลังเป็นอิฐ โต๊ะไม้ และเพดานคอนกรีต เก้าอี้สีเขียว เพิ่มความมีชีวิตชีวาด้วยกระถางดอกไม้ ทั้งนี้โจทย์ของเจ้าของ ต้องการฉากกั้นกระจก เพื่อให้สามารถมองเห็นความเคลื่อนไหว ในโครงการได้จากในห้อง ในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการให้ ใครมองทะลุเข้ามา จึงต้องติดตั้งมู่ลี่ไม้ ไม่เพียงแต่ความเป็นส่วนตัวเท่านั้น แต่มู่ลี่เหล่านี้ยังช่วยกรองแสง สร้างการเล่นแสง และเงาที่สวยงามทำให้เกิด มุมมองที่ถ่ายรูปได้ด้วย
การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน ทั้งการตกแต่งออฟฟิศให้สบายตา มีบรรยากาศที่ดี เสริมด้วยวัสดุหรือองค์ประกอบของธรรมชาติ จะมีส่วนอย่างมากใน การลดความรู้สึกเครียดหรือกดดัน ระหว่างทำงานให้น้อยลง ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทำงานได้มากกว่าสถานที่ทำงานที่มีแต่ห้องสี่เหลี่ยม โต๊ะทำงาน และอุปกรณ์สำนักงงาน และช่วยกระตุ้นให้คนทำงานมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันมากขึ้นด้วย