สวนแบบธรรมชาติ

สวนแบบธรรมชาติ natural garden การจัดสร้างธรรมชาติในสวน

สวนแบบธรรมชาติ phuket village natural garden การจัดสร้างธรรมชาติในสวน การจัดสร้างธรรมชาติในสวน ซึ่งเลียนแบบมาจากธรรมชาติของป่าเขาลำเนาไพร รวมไปถึงพื้นที่เชิงนิเวศน์ และพื้นที่อิงธรรมชาติ อย่างภูเขา และทะเล โดยใช้เส้นสายฟรีฟอร์มและการจัดวางองค์ประกอบต่างๆ ให้ใกล้เคียงธรรมชาติรวมถึงกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ บ้าน ทั้งในเรื่องของวัสดุและพืชพรรณโดยจัดอย่างกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม โดยคำนึงถึงเรื่องทิศทางของแสงแดด ความชื้นและลมเพราะสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของพืช village phuket  

สวนแบบธรรมชาติ

แนวทางการแต่งสวนให้ถูกใจ สไตล์สวนสวยๆ ที่ได้รับความนิยม

การสวนที่จัดตกแต่งได้ตามใจผู้อยู่ จะดึงดูดให้ผู้อยู่อาศัยติดบ้านมากขึ้น เพราะเวลาว่างก็สามารถออกไปนั่งพักผ่อนหย่อนใจที่สวน หรือจะนำงานไปนั่งทำในสวนก็ยังได้ เพียงแค่จัดสวนให้ร่มรื่น สวยงาม สบายตา โดย สไตล์สวนสวยๆ ที่ได้รับความนิยม ก็มีหลากหลาย สามารถเลือกตามความต้องการได้เลย

สไตล์สวนที่ได้รับความนิยม

1. สวนสไตล์โมเดิร์น (MODERN STYLE)

สวนสไตล์โมเดิร์น คือสวนที่เน้นองค์ประกอบต่างๆ ให้เป็นรูปทรงเรขาคณิต เช่น สี่เหลี่ยมวงกลม และจะมีความเป็นสัดส่วน ไม่รกหรือดูเยอะจนเกินไป ต้นไม้ไม่จำเป็นต้องมาก แต่ถ้ามีต้องเป็นต้นไม้ที่เส้นสายชัดเจน รูปทรงโดดเด่น เช่น พืชอวบน้ำ ส่วนโทนสีที่ใช้มักใช้โทนสีเรียบๆ เช่น ขาว ดำ เทา ทำให้ดูทันสมัย และสามารถเพิ่มความสดชื่น มีชีวิตชีวาด้วยบ่อน้ำที่เป็นรูปทรงกลม หรือสี่เหลี่ยม หรือน้ำพุที่เพิ่มการเคลื่อนไหวภายในสวน เหมาะสำหรับคนที่ชอบความทันสมัย และไม่ชอบสวนที่มีต้นไม้จำนวนมากจนยากต่อการดูแลรักษา หรือมีเวลาไม่มากในการดูแลสวน phuket village

2. สวนสไตล์มินิมอล (MINIMAL STYLE)

การจัด สวนสไตล์มินิมอล จะยึดหลักตามแนวคิด “Less is more” หรือน้อยแต่มาก ภายในสวนจึงจะไม่เน้นการตกแต่งที่มากมายอะไร โทนสีที่ใช้ก็มีไม่กี่สีคล้ายๆ สไตล์โมเดิร์น คือ ขาว เทา ดำ การตกแต่งมักใช้ของน้อยชิ้นแต่มักเน้นการสื่อความหมาย เพิ่มกิมมิคให้สวนดูโดดเด่นขึ้น หรือมีฟังก์ชั่นหลายอย่างในของ 1 ชิ้น เช่น กระถางปูนเปลือย สายไฟพร้อมหลอดไส้ ทั้งยังเลือกวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย เช่น แผ่นทางเดินสำเร็จรูป แผ่นหิน

ลูกเล่นอีกอย่างในสวนสไตล์มินิมอลคือการเล่นระดับ เช่น การยกพื้นขึ้นมาคล้ายขั้นบันได หรือการกรุผิวกำแพงให้มีความตื้นลึกแตกต่างกัน ในส่วนของต้นไม้เน้นที่ดูแลง่าย เช่น ไม้พุ่มเตี้ยและไม้พุ่มสูงที่ตัดตกแต่งง่ายและไม้คลุมดิน สวนสไตล์มินิมอลเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบซ่อนลูกเล่นในการจัดแต่งบ้าน เน้นความสะอาด สบายตา และเหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาว่างมากนักในการดูแลสวน

3. สวนสไตล์ทรอปิคอล (TROPICAL STYLE)

สวนสไตล์ทรอปิคอล คือสวนที่ตกแต่งให้มีสภาพแวดล้อมคล้ายกับภูมิประเทศที่มีอากาศแบบร้อนชื้น ถ้านึกไม่ออกก็นึกถึงสวนที่มีต้นไม้ใบสวย เช่น ปาล์ม เบิร์ดออฟพาราไดซ์ และมีน้ำตกย่อมๆ เพิ่มความชุ่มชื้น ซึ่งสวนสไตล์ทรอปิคอลจะเน้นความร่มรื่น เขียวขจี ในส่วนของทางเดินสามารถออกแบบโดยการโรยหินแล้ววางไม้หมอนรถไฟตามระยะก้าวเดิน ก็จะได้สัดส่วนของสวนสไตล์ทรอปิคอลแบบสวยๆ แล้ว village phuket

แน่นอนว่าสวนสไตล์ทรอปิคอลเหมาะกับผู้ที่ชอบความร่มรื่นมากเป็นพิเศษ เพราะจะเน้นที่ต้นไม้สีเขียวเป็นส่วนใหญ่ และยังเหมาะกับบ้านไม้ หรือบ้านที่ตกแต่งสไตล์ทรอปิคอลด้วย แต่อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลทำความสะอาดสวนมากนัก

4. สวนสไตล์อังกฤษ (ENGLISH STYLE)

พูดถึง สวนสไตล์อังกฤษ หลายคนก็จะนึกถึงความคลาสสิค ความดั้งเดิม ไปจนถึงการนั่งจิบน้ำชายามบ่ายและชมดอกไม้ในสวน การจัดสวนสไตล์อังกฤษ ในส่วนที่เป็นทางเดิน นิยมใช้อิฐมอล หินธรรมชาติ ในส่วนของรั้วมักใช้ไม้มาทำเป็นรั้ว ที่นิยมและทำให้นึกถึงสวนสไตล์อังกฤษได้ดีมักเป็นไม้สีขาว และปลูกไม้เลื้อยให้เลื้อยไปตามรั้วไม้พอสวยงาม และถ้าสวนมีขนาดเล็ก แคบ อาจเพิ่มซุ้มประตูให้ดูโดดเด่นขึ้นมาได้

สวนสไตล์อังกฤษนิยมการปลูกดอกไม้ให้สวนดูมีหลากสีสันสวยงาม มักใช้ดอกไม้ที่มีคู่สีตรงข้ามกัน เช่น ม่วง-เหลือง เขียว-แดง สามารถปลูกได้ทั้งปลูกลงดินและปลูกลงกระถาง ซึ่งกระถางสามารถใช้ได้ทั้งกระถางเซรามิก กระถางอลูมิเนียม และกระถางจักรสาน ตามแต่ความชอบ ส่วนโต๊ะและเก้าอี้ในสวนสไตล์อังกฤษนิยมใช้เป็นเก้าอี้ชุดโครงเหล็ก สีที่นิยมคือสีขาวดูสะอาดและสบายตา การจัดสวนสไตล์นี้เหมาะกับคนที่ชอบดอกไม้และต้องการให้สวนมีธีมสวยๆ เข้ากัน หรืออาจเหมาะกับบ้านที่ตกแต่งสไตล์วินเทจนั่นเอง

5. สวนสไตล์ญี่ปุ่น (JAPANESE STYLE)

สวนสไตล์ญี่ปุ่น เป็นสวนที่มีเอกลักษณ์มาก แฝงไปด้วยวัฒนธรรมและแนวคิด เพราะสวนญี่ปุ่นเป็นสวนที่ยึดหลักของนิกายเซน ที่เน้นการฝึกจิตใจและปล่อยวาง เชื่อมโยงตนเองเข้ากับธรรมชาติ สวนญี่ปุ่นจึงเป็นที่พักผ่อนจิตใจได้ดี ในส่วนของการตกแต่งจะเน้นความร่มรื่น ซึ่งองค์ประกอบที่ควรมีในสวนสไตล์ญี่ปุ่นคือ phuket village

  • ตะเกียงหิน ใช้ให้แสงสว่างในสวน และมีความหมายแฝงหลายแบบ เช่น แต่ละส่วนของตะเกียงหินหมายถึง ท้องฟ้า ลม ไฟ น้ำ และดิน
  • หิน กรวด และทราย สื่อถึงภูเขาและทะเล มักใช้หินสีเทา ดำ ไปจนถึงน้ำตาลแดง
  • อ่างน้ำ แต่เดิมใช้ล้างเท้าก่อนเข้าบ้าน แต่ปัจจุบันเป็นสิ่งประดับสวนอย่างหนึ่ง
  • รั้วไม้ไผ่ เสริมให้ดูมีสไตล์แบบญี่ปุ่นมากขึ้น
  • แผ่นทางเดิน มักใช้เป็นแผ่นหิน จัดเป็นทางโค้งเลียนแบบธรรมชาติ ไม่นิยมจัดเป็นทางตรง  
  • บ่อน้ำ หรือลำธาร เป็นอย่างสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ในสวนญี่ปุ่น ถ้าทำเป็นน้ำตกและมีลำธารไหลควรให้ไหลจากทิศตะวันออกไปสู่ทิศตะวันตก

ในส่วนของพืช มักเลือกเป็นไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม และไม้คลุมดิน ที่คุ้นเคยกันดีคือต้นไทรแก้วแต่งพุ่ม ข่อยดัด ตะโกดัด ซึ่งการจัดแต่งสวนแบบญี่ปุ่นนั้น จะเห็นได้ว่าต้องมีความพิถีพิถัน และต้องมีเวลาดูแลรักษาพอสมควร จึงเหมาะกับคนที่ชอบการตกแต่งสวนเป็นพิเศษ

การเลือกสไตล์สวนสวยๆ phuket village ให้กับ บ้าน ของเรา ต้องไม่ดูแค่ความชอบเท่านั้น เพราะว่าการจัดสวนให้คงความสวยงามได้ตลอดต้องมีเวลาดูแลจัดแต่งด้วย ถึงจะมีกำลังทรัพย์หรือมีเวลาในการทุ่มเทเพื่อเนรมิตสวนให้ได้สวมสมใจในตอนแรก แต่ถ้าไม่มีเวลาดูแลก็อาจกลายเป็นสวนที่ต้นไม้รกจนมีสัตว์ไม่พึงประสงค์มาอาศัยอยู่ หรือเหี่ยวแห้งตาย ดูไม่สวยและไม่น่าไปนั่งพักผ่อน ในท้ายที่สุดก็ต้องเสียแรงเสียเวลาในการเคลียร์สวน village phuket

สวนแบบธรรมชาติ

เคล็ดลับในการดูแลรักษาและตกแต่งสวน

1. รู้จักเครื่องมือและเลือกใช้ให้เหมาะสม

อุปกรณ์ทำสวนมีหลายอย่าง เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันไป เช่น พลั่ว คราด กระบวยรดน้ำ กรรไกรตัดแต่งกิ่ง ซึ่งควรมีอุปกรณ์เหล่านี้เตรียมไว้ และต้องรู้จักวิธีเก็บรักษาเพื่อให้พร้อมสำหรับการใช้งาน

2. รดน้ำต้นไม้ช่วงเช้าตรู่

ช่วงเช้าตรู่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพราะเป็นการป้องกันต้นไม้ขาดน้ำในช่วงกลางวันที่แดดแรงแล้วต้นไม้จะคายน้ำออกมามาก การรดน้ำในช่วงเช้าตรู่จะช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์

3. รู้จักเลือกใช้ปุ๋ย

เช่นเดียวกับการที่เราต้องรู้จักเครื่องมือในการทำสวน เราก็ต้องรู้จักปุ๋ยแต่ละชนิดว่าเหมาะสมกับต้นไม้หรือดินแบบไหน ถึงจะบำรุงต้นไม้ได้ถูกต้องเหมาะสม

4. หมั่นพรวนดิน

การดูแลต้นไม้นั้นแน่นอนว่าแค่ใส่ปุ๋ยย่อมไม่พอ ต้องพรวนดินบ่อยๆ ด้วยเพื่อให้ดินร่วนซุยเหมาะแก่การดูดซับน้ำของต้นไม้ ถ้าดินแข็งเกินไปอาจทำให้ต้นไม้ดูดซับน้ำได้ยาก เจริญเติบโตได้ช้า phuket village

5. คลุมหน้าดิน

การปลูกต้นไม้คลุมหน้าดินจะช่วยให้ดินมีความชุ่มชื้น ลดการกัดเซาะของหน้าดิน และลดการเจริญเติบโตของวัชพืช

สวนแบบธรรมชาติ

6. ปลูกพืชล้มลุก

พืชล้มลุกเป็นพืชที่ต้องปลูกให้ถูกช่วงเวลา โดยจะมีอายุอยู่เพียงช่วงสั้นๆ แต่จะช่วยให้สวนมีความชุ่มชื้น สวยงาม

7. ปลูกไม้พุ่ม

สวนที่มีเพียงไม้ยืนต้นหรือหญ้าอย่างเดียวอาจให้ความรู้สึกร่มรื่นไม่เท่ากับสวนที่มีไม้พุ่มด้วย เพราะจะได้มีต้นไม้ที่มีความสูงในระดับที่ลดหลั่นกันไป สร้างความสวยงามมากขึ้นไม่น้อยทีเดียว village phuket

8. รู้จักตัดเล็มต้นไม้

การจัดสวนไม่ใช่การนำต้นไม้มาปลูกแล้วจบ ต้องคอยดูแลและตัดแต่งกิ่งไม้ด้วย เพื่อไม่ให้มีกิ่งที่รกรุงรังเกินไป ทั้งนี้ยังช่วยให้มีแสงลอดลงมายังต้นไม้ที่อยู่ด้านล่าง ให้เจริญเติบโตได้เท่าๆ กันด้วย

9. หมั่นตัดหญ้าสม่ำเสมอ

ควรตัดหญ้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้สนามหญ้าในสวนยาวรกรุงรัง กลายเป็นแหล่งที่อยู่ของงู สัตว์เลื้อยคลานต่างๆ โดยการตัดหญ้าต้องตัดให้เหลือความสูงประมาณ 1 นิ้ว phuket village

10. สร้างรั้วป้องกันสัตว์เลี้ยง

ถ้าที่บ้านมีสัตว์เลี้ยงควรสร้างรั้วแบ่งสัดส่วนให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้สัตว์เลี้ยงเข้าไปขุดหรือคุ้ยเขี่ยสวนจนต้นไม้ที่ปลูกเอาไว้ตาย รวมทั้งป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงเข้าไปกินพืชที่อาจมีพิษอีกด้วย village phuket

อย่างไรก็ตาม เคล็ดลับการดูแลรักษาและตกแต่งสวน phuket village เหล่านี้เป็นเคล็ดลับที่ช่วยให้รู้วิธีในการดูแลสวนขั้นต้นเท่านั้น ซึ่งต้นไม้แต่ละชนิดต้องการการดูแลรักษาที่แตกต่างกันไป เช่น ต้องการน้ำมาก น้ำน้อย ต้องการแดดแรง แดดอ่อน เป็นต้น การดูแลสวนจึงทุ่มเทและใส่ใจ แต่ก็ไม่ยากเกินไปถ้าค่อยๆ ศึกษาและเรียนรู้ไป เราก็จะได้สวนที่สวยงามสมดังใจในที่สุด

. . . . . . . . . . .

อ่านบทความที่น่าสนใจถัดไป ตกแต่งบ้านโมเดิร์น ทาวน์โฮมดีอย่างไร

เพิ่มเติม : village phuket .pool villa phuket .Villas Phuket . วิลล่าราคาถูกภูเก็ต . วิลล่าภูเก็ตป่าสัก . ขายวิลล่าภูเก็ต . SALE VILLA . buy villa phuket . phuket property . property phuket . บ้านจัดสรร .pool villaphuket village . phuket property . วิลล่าภูเก็ตที่ขาย . วิลล่า . ขายบ้านภูเก็ต . รีวิวบ้านภูเก็ต . home phuket . POOL VILLA . pool villas phuket villa