ที่เที่ยวลพบุรี

ที่เที่ยวลพบุรี

ที่เที่ยวลพบุรี เที่ยวลพบุรี ดินแดนอาณาจักรไทยเดิม เมืองที่น่าค้นหา ดื่มด่ำบรรยากาศ สถานที่ท่องเที่ยวลพบุรี สุด Unseen เมืองในฝันด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ตามแบบฉบับ ที่เที่ยวลพบุรี ฟินไปกับวัดวาอาราม สถาปัตยกรรมโบราณ รถไฟลอยน้ำ ลพบุรีที่เที่ยว รับโอโซนให้เต็มปอด แล้วตลุยเมืองละโว้ ถิ่นโบราณ ดินแดนที่น่าค้นหา ถ้าพร้อมแล้วก็ลุยกันนเล้ยย!!! check here

พระปรางค์สามยอด

พระปรางค์สามยอด

 

พระปรางค์สามยอด ที่เที่ยวลพบุรี ตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี โบราณสถานทางประวัติศาสตร์ไทยสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นปราสาทศิลาแดงศิลปะการตกแต่งแบบเขมร ด้านในสถานที่ตามมุมต่างๆ ทุกคนจะได้พบกับ เจ้าลิงจ๋อตัวน้อยกันด้วยนะคะสามารถเก็บภาพสวยๆ ของน้องจ๋อกันได้ด้วย เดินชมโบราณสถานที่ทรงพลังในบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกย้อนยุคสมัยแบบน่าทึ่งสุดๆบ้านพักพูลวิลล่า กระบี่

และในการมาเยือนที่พระปรางค์สามยอดนี่คุ้มแน่นอนเพราะทุกคนสามารถเข้าชม วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วัดสวยใกล้กรุงเทพ พระที่นั่งไกรสรสีหราช และบ้านหลวงวิชาเยนทร์ กันได้อีกด้วยนะ เที่ยวลพบุรี เที่ยวพระปรางค์สามยอด ใกล้ที่เที่ยวสิงห์บุรีเที่ยวสนุกท่องเมืองประวัติศาสตร์ไทย

พระปรางค์สามยอด ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี  เป็นโบราณสถานและแหล่งท่องเที่ยวทาง ประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรี ปราสาทศิลาแลงแบบเขมรเรียงต่อกัน 3 องค์ เชื่อมต่อกันด้วย มุขกระสัน ภายในบริเวณนอกจากปราสาททั้ง 3 องค์นี้แล้ว ทางด้านทิศตะวันออกของปราสาทประธานมีการต่อเติม วิหารก่ออิฐถือ ปูนเชื่อมต่อกับปราสาทประธานเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูป ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (ครองราชย์ พ.ศ. 2199 -2231)

ประวัติพระปรางค์สามยอด

ลักษณะเป็นปราสาทเขมรในศิลปะบายน (พ.ศ. 1720 – 1773) โครงสร้างเป็นศิลาแลงประดับปูนปั้น สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าชัย วรมันที่ 7 (ครองราชย์ พ.ศ. 1724 – ประมาณ 1757) เพื่อเป็นพุทธสถานในลัทธิวัชรยานประจำเมืองละโว้หรือลพบุรี ซึ่งในขณะนั้น เป็นเมืองลูกหลวงของอาณาจักรกัมพูชา แต่เดิมภายในปราสาทประธานประดิษฐานพระพุทธรูปนาคปรกทรงเครื่อง ปราสาททิศใต้ ประดิษฐานรูปพระโลเกศวร (พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร) สี่กร และปราสาททิศเหนือประดิษฐานรูปพระนางปรัชญาปารมิตาสองกร กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานในราชกิจจานุเบpool villa กาญจนบุรี

พระนารายณ์ราชนิเวศน์

พระนารายณ์ราชนิเวศน์

 

พระนารายณ์ราชนิเวศน์ เป็น สถานที่เที่ยวลพบุรี ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทยมาก โดยที่แห่งนี้ ชาวเมืองลพบุรีเรียกกันว่า “วังนารายณ์” เพราะเป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2209พื้นที่ทั้งหมดภายในพระราชวังแบ่งออกเป็น 3 เขต คือ เขตพระราชฐานชั้นนอกประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำซับเหล็ก สิบสองท้องพระคลัง ตึกพระเจ้าเหา

ตึกรับรองคณะทูตต่างประเทศโรงช้างหลวง 10 โรงฟังจากประวัติแล้วทุกคนนึกภาพตามกันออกใช่ไหมคะว่าที่แห่งนี้ในสมัยนั้นจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน จนปัจจุบันได้กลายเป็น พิพิธภัณฑสถานในปี พ.ศ. 2504 เปลี่ยนชื่อเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ ด้านในจัดแสดงศิลปโบราณวัตถุ ที่หาดูไม่ได้จากที่ไหนเลยล่ะค่ะ ให้ฟิวย้อนยุคสมัยที่น่าประทับใจสุดๆ ต้องไปเที่ยวเลยคร้า

ชาวเมืองลพบุรีเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า “วังนารายณ์” เป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2209 บนพื้นที่ 41 ไร่ ณ เมืองลพบุรีเพื่อใช้เป็นที่ประทับ ล่าสัตว์ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกเมือง ภายหลังการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่นี่ก็ถูกทิ้งร้าง จนถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระองค์โปรดให้บูรณะพระราชวังของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชและสร้างพระที่นั่งขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2399 และพระราชทานนามว่า “พระนารายณ์ราชนิเวศน์” พื้นที่ทั้งหมดภายในพระราชวังแบ่งออกเป็น 3 เขต คือ เขตพระราชฐานชั้นนอกประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำซับเหล็ก สิบสองท้องพระคลัง ตึกพระเจ้าเหา ตึกรับรองคณะทูตต่างประเทศโรงช้างหลวง 10 โรง ส่วนต่อมาคือ

เขตพระราชฐานชั้นกลาง มีอาคารต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งจันทรพิศาล พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาทหมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฏ (ประกอบด้วยพระที่นั่ง 4 องค์เชื่อมติดกัน ได้แก่ พระที่นั่งพิมานมงกุฎ ,พระที่นั่งสุทธิวินิจฉัย ,พระที่นั่งไชยศาสตรากร และพระที่นั่งอักษรศาสตราคม) ทิมดาบ หรือ ที่พักของทหารรักษาการณ์และสุดท้ายคือเขตพระราชฐานในมีพระที่นั่งสุทธาสวรรย์และหมู่ตึกพระประเทียบ

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

 

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ โบราณสถานอีกที่หนึ่งที่สำคัญใน จังหวัดลพบุรี เป็นแหล่งศึกษาประวัติศาสร์ไทยที่น่าสนใจมากๆ ซึ่งเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งอารายธรรมโบราณที่น่าทึ่ง ทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชมความงดงามอันทรงคุณค่า ที่เที่ยวลพบุรี วัดพระศรีรัตนมหาธาตุนับว่าเป็นวัดที่มีศิลปะการตกแต่ง ที่มีความผสมผสานได้อย่างลงตัวสวยงาม เช่น ซุ้มหน้าของปรางค์ประธานเป็นศิลปะตกแต่งแบบตะวันตก ซึ่งเป็นยุคที่เริ่มมีการติดต่อกับ ฝรั่งเศส นั่นเอง

ชาวเมืองลพบุรีเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า “วังนารายณ์” เป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2209 บนพื้นที่ 41 ไร่ ณ เมืองลพบุรีเพื่อใช้เป็นที่ประทับ ล่าสัตว์ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกเมือง ภายหลังการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่นี่ก็ถูกทิ้งร้าง จนถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรดให้บูรณะพระราชวังของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชและสร้างพระที่นั่งขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2399

และพระราชทานนามว่า “พระนารายณ์ราชนิเวศน์” พื้นที่ทั้งหมดภายในพระราชวังแบ่งออกเป็น 3 เขต คือ เขตพระราชฐานชั้นนอกประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำซับเหล็ก สิบสองท้องพระคลัง ตึกพระเจ้าเหา ตึกรับรองคณะทูตต่างประเทศโรงช้างหลวง 10 โรง ส่วนต่อมาคือ เขตพระราชฐานชั้นกลาง มีอาคารต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งจันทรพิศาล พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาทหมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฏ (ประกอบด้วยพระที่นั่ง 4 องค์เชื่อมติดกัน ได้แก่ พระที่นั่งพิมานมงกุฎ ,พระที่นั่งสุทธิวินิจฉัย ,พระที่นั่งไชยศาสตรากร และพระที่นั่งอักษรศาสตราคม) ทิมดาบ หรือ ที่พักของทหารรักษาการณ์และสุดท้ายคือเขตพระราชฐานในมีพระที่นั่งสุทธาสวรรย์และหมู่ตึกพระประเทียบ

บ้านหลวงวิชาเยนทร์

บ้านหลวงวิชาเยนทร์

 

บ้านหลวงวิชาเยนทร์ ที่เที่ยวลพบุรี ที่ตอนนี้เป็นที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นที่มาของฉากในละคร บุพเพสันนิวาส ที่โด่งดังอยู่ในตอนนี้เอง โดยที่นี่จะเรียกกันว่า บ้านหลวงรับราชทูต เพราะที่นี่เคยเป็นที่ต้อนรับคณะราชทูตจากฝรั่งเศสชุดเเรก ในสมัยพระนารายณ์มหาราช

ซึ่งยังคงทิ้งร่องรอยความสง่างามไว้บางส่วน มีรั้วรอบขอบชิด ประตูอย่างชัดเจน ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันอย่างใกล้ชิด ที่เที่ยวลพบุรี แห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดกันเลยล่ะคร้าาาบ้านหลวงรับราชทูต หรือ บ้านวิชาเยนทร์ ตั้งอยู่บนถนนวิชาเยนทร์ อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ไม่ไกลจากพระนารายณ์ราชนิเวศน์

ในสมัยก่อนกลุ่มบ้านอันงดงามเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่รองรับคณะทูตที่มาเข้าเฝ้า สมเด็จพระนารายณ์มหาราชยังเมืองลพบุรี คณะราชทูตจากประเทศฝรั่งเศสชุดแรกที่เข้ามาเมื่อปี พ.ศ.2228 ได้พำนัก ณ ที่แห่งนี้ ต่อมาเมื่อชาวกรีกที่ มีชื่อ Constantine Phaulkon (คอนสแตนติน ฟอลคอน) ได้เข้ามารับราชการและได้รับความดีความชอบ

ได้ทรงแต่งตั้งให้เป็นถึง เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ และได้พระราชทานที่พักอาศัยให้อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของบ้านหลวงรับราชทูต จนเป็นที่มาของชื่อ บ้านหลวงรับราชทูตหรือบ้านหลวงวิชาเยนทร์ ลักษณะของสถาปัตยกรรมบ้านหลวงรับราชทูตบางหลังเป็นยุโรปอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอาคารใหญ่ทางทิศตะวันออกก่อด้วยอิฐ ถือปูน 2 ชั้น หน้าต่างและซุ้มประตูแสดงให้เห็นลักษณะศิลปะตะวันตกแบบเรอเนสซองส์ RENAISSANCE ซึ่งแพร่หลายในสมัยนั้น